สวัสดีครับเพื่อนๆ! ใครที่กำลังเบื่อสายคีย์บอร์ดที่มันพันกันยุ่งเหยิงบนโต๊ะทำงาน หรืออยากอัปเกรดโต๊ะคอมให้ดูคลีนๆ สบายตาขึ้นมาหน่อย วันนี้เรามีของดีมาแนะนำกัน กับ “10 คีย์บอร์ดไร้สายตัวท็อปแห่งปี 2025″ ที่คัดมาแล้วว่าเด็ดจริง! ไม่ว่าจะเอาไปทำงาน Work from Home หรือจะเอาไปลงสนามรบในเกม ก็ตอบโจทย์ได้หมด มีแบตในตัว ไม่ต้องวุ่นวายหาถ่าน แถมเชื่อมต่อง่ายเวอร์ จะมีตัวไหนโดนใจบ้าง ไปดูกันเลย!
รีวิว 10 คีย์บอร์ดไร้สายตัวจี๊ด น่าใช้ปี 2025
สารบัญ
คีย์บอร์ดไร้สาย Keychron K4 Max Wireless Silent Switch
เริ่มที่ตัวแรกกับแบรนด์มหาชนอย่าง Keychron บอกเลยว่าใครเล่นคีย์บอร์ดต้องรู้จัก! รุ่น K4 Max นี่คือคำตอบของคนทำงานในออฟฟิศหรืออยู่หอเลย เพราะใช้ Silent Switch กดเงียบกริบ ไม่ต้องกลัวเสียงไปรบกวนใคร แถมยังเป็น Hot-swappable ด้วยนะ คือถ้าเบื่อฟีลลิ่งสวิตช์เดิมๆ ก็แค่ดึงออกแล้วใส่ตัวใหม่เข้าไปได้เลย ไม่ต้องบัดกรีให้ยุ่งยาก
เรื่องการเชื่อมต่อนี่คือครบเครื่องสุดๆ มีทั้ง Wifi 2.4G ที่เสถียรมาก, Bluetooth 5.1 ต่อได้ 3 อุปกรณ์สลับไปมาเนียนๆ และยังมี สาย Type-C ไว้เสียบตรงหรือชาร์จแบตไปในตัว ตัวนี้เป็น Layout แบบ 96% คือมี Numpad (แป้นตัวเลข) มาให้ครบๆ แต่ยังคงความคอมแพคอยู่ ใครทำงานสายบัญชีหรืองานเอกสารต้องรักเลย
เหมาะกับ: คนทำงานที่ต้องการความเงียบ, คนที่ใช้หลายอุปกรณ์สลับไปมา (macOS, Windows), คนที่อยากเริ่มเล่นคีย์บอร์ดแบบ Custom
ราคาประมาณ: 4,527 บาท
คีย์บอร์ดไร้สาย HP CS500 KEYBOARD & MOUSE WIRELESS Set
ใครมองหาความคุ้มค่าแบบสุดๆ ต้องตัวนี้เลย! HP CS500 มาเป็นเซ็ตคู่ ทั้งคีย์บอร์ดและเมาส์ในราคาสบายกระเป๋า แค่พันนิดๆ เท่านั้นเอง แบรนด์ HP การันตีเรื่องความทนทานและมาตรฐานอยู่แล้ว การเชื่อมต่อก็ง่ายแสนง่าย แค่เอา USB Dongle อันเล็กๆ ไปเสียบที่คอม ก็ใช้ได้เลยทั้งเมาส์และคีย์บอร์ด สัญญาณ Wireless 2.4G ส่งได้ไกลถึง 10 เมตร เดินไปพรีเซนต์งานสบายๆ
ตัวคีย์บอร์ดมีปุ่ม Multimedia ให้ใช้ตั้ง 10 ปุ่ม กดเปลี่ยนเพลง เพิ่มลดเสียงได้เลย ไม่ต้องใช้เมาส์คลิกให้เสียเวลา เมาส์ที่ให้มาก็ไม่ธรรมดา ปรับความเร็ว (DPI) ได้ 3 ระดับเลยนะ เป็นเซ็ตเริ่มต้นที่ครบเครื่องจริงๆ
เหมาะกับ: นักเรียน, นักศึกษา, คนทำงานออฟฟิศที่ต้องการเซ็ตจบๆ ในราคาคุ้มค่า
ราคาประมาณ: 1,090 บาท
คีย์บอร์ดไร้สาย LOGITECH MX KEYS S ADVANCED WIRELESS
ขยับมาที่สายพรีเมียมกันบ้างกับ Logitech MX Keys S ตัวนี้คือที่สุดของคีย์บอร์ดทำงานเลยก็ว่าได้! ดีไซน์แบบ Low Profile บางเฉียบ สวยหรูดูแพง ปุ่มเป็นทรงโค้งรับปลายนิ้ว พิมพ์สนุกและแม่นยำมาก แถมเสียงยังเงียบสุดๆ ฟีลลิ่งการพิมพ์คือดีย์มากจริงๆ
การเชื่อมต่อก็ระดับโปร มีทั้ง Bluetooth และ Logi Bolt ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของเค้า ทำให้เสถียรและปลอดภัยสุดๆ สลับใช้งานได้ 3 อุปกรณ์แบบไม่มีสะดุด ทีเด็ดอีกอย่างคือมี Smart Backlight ไฟจะติดเองเมื่อเราเอามือไปใกล้ๆ และดับเองเมื่อเราลุกออกไป ช่วยประหยัดแบตได้เยอะ แบต 1,500mAh ใช้ได้ยาวๆ เป็นสิบวันเลยนะ
เหมาะกับ: คนทำงานที่ต้องการคีย์บอร์ดประสิทธิภาพสูง, Content Creator, โปรแกรมเมอร์ ที่เน้นฟีลลิ่งการพิมพ์ระดับพรีเมียม
ราคาประมาณ: 3,730 บาท
คีย์บอร์ดไร้สาย Ajazz AK820max LCD
มาที่สาย Custom สีสันสดใสกันบ้างกับ Ajazz AK820max ตัวนี้ฟีเจอร์เด่นสุดๆ คือมี หน้าจอ LCD เล็กๆ มาให้ด้วย! เอาไว้ดูสถานะแบต, เวลา, หรือโหมดการเชื่อมต่อได้เลย เก๋สุดๆ รุ่นนี้ใช้ Avocado Switch ที่ให้ฟีลลิ่งการกดที่นุ่มๆ เสียงไม่ดังมาก (Tactile) พิมพ์สนุกเลยแหละ แถมยังเป็น Gasket Mount ทำให้สัมผัสตอนพิมพ์มันจะนุ่มๆ หยุ่นๆ ไม่แข็งกระด้าง
แบตเตอรี่ให้มาจุกๆ ถึง 4,000 mAh ใช้งานลืมชาร์จไปเลย การเชื่อมต่อก็เป็นแบบ Tri-Mode ครบๆ ทั้ง USB, Bluetooth 5.1 และ Wifi 2.4G ใครชอบคีย์บอร์ดมีลูกเล่นเยอะๆ สีสวยๆ ต้องจัดตัวนี้
เหมาะกับ: คนที่ชอบคีย์บอร์ดมีกิมมิค, ชอบสีสันสดใส, อยากได้ฟีเจอร์ครบๆ ในราคาไม่แรงเกินไป
ราคาประมาณ: 2,999 บาท
คีย์บอร์ดไร้สาย ANITECH OPA812 WIRELESS COMBO
ใครสายคาวาอี้ต้องกรี๊ด! Anitech OPA812 มาเป็นเซ็ตคีย์บอร์ดกับเมาส์ที่น่ารักแบบตะโกน ดีไซน์มาในสไตล์เรโทร ปุ่มกดเป็นทรงกลมสีพาสเทลหวานๆ แค่วางบนโต๊ะก็คิ้วท์แล้ว ตัวคีย์บอร์ดเป็น Full-size มีแป้นตัวเลขครบถ้วน ใช้งานสะดวก เมาส์ที่ให้มาก็เป็นทรงเข้ากัน คลิกเงียบไม่กวนใจ
การเชื่อมต่อทำได้ทั้ง USB Wifi 2.4G และ Bluetooth 5.0 เลยนะ ถือว่าให้มาเกินราคามากๆ เป็นอีกหนึ่งเซ็ตสุดคุ้มที่ได้ทั้งความน่ารักและฟังก์ชันการใช้งานที่ดี
เหมาะกับ: สาวๆ หรือคนที่ชอบแต่งโต๊ะคอมสไตล์น่ารักๆ สีสันสดใส
ราคาประมาณ: 1,790 บาท
คีย์บอร์ดไร้สาย Royal Kludge RK S98
เข้าสู่โซนเกมมิ่งกันบ้างกับแบรนด์ยอดฮิต Royal Kludge (RK) รุ่น S98 นี่คือคีย์บอร์ดที่ฟีเจอร์จัดเต็มมาก! มี หน้าจอสี TFT ขนาด 1.47 นิ้ว เอาไว้โชว์สถานะต่างๆ หรือจะตั้งเป็นรูป GIF ดุ๊กดิ๊กก็ได้ มีปุ่ม Knob เอาไว้หมุนเพิ่ม-ลดเสียง หรือจะตั้งค่าเป็นอย่างอื่นก็ได้ สะดวกสุดๆ
การเชื่อมต่อแบบ Tri-Mode (สาย, Wifi 2.4G, Bluetooth) ต่อได้ 3 เครื่องพร้อมกัน ไฟ RGB ก็สวยแสบตา ปรับได้ 14 โหมด แบตเตอรี่ก็อึดใช้ได้ที่ 3,750 mAh เป็นคีย์บอร์ดที่จบในตัวเดียวจริงๆ ทั้งทำงานและเล่นเกม
เหมาะกับ: เกมเมอร์, คนที่ชอบคีย์บอร์ดมีลูกเล่นเยอะๆ เช่น จอ, Knob และไฟ RGB สวยๆ
ราคาประมาณ: 3,070 บาท
คีย์บอร์ดไร้สาย Aula Mechanical Keyboard M75
Aula M75 เป็นคีย์บอร์ดไร้สายขนาด 75% ที่กำลังฮิตเลย คือตัดแป้นตัวเลขออกไป แต่ยังมีปุ่มฟังก์ชัน (F1-F12) และปุ่มลูกศรครบ ทำให้ตัวเล็ก ประหยัดพื้นที่บนโต๊ะ แต่ยังใช้งานทำงานได้สะดวก ตัวนี้ใช้ TCC Purple Switch ที่เสียงเงียบ นุ่ม แต่ตอบสนองไวมาก เหมาะทั้งเล่นเกมและพิมพ์งานยาวๆ
แบตให้มาเยอะถึง 4,000 mAh ถ้าปิดไฟ RGB สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 266 ชั่วโมง! OMG! การเชื่อมต่อก็ครบทั้ง สาย, Wifi 2.4G และ Bluetooth รองรับทุกระบบปฏิบัติการเลย เป็นอีกตัวที่คุณภาพเกินราคาไปมาก
เหมาะกับ: คนที่ชอบคีย์บอร์ดขนาดกะทัดรัด, เกมเมอร์ที่ต้องการสวิตช์ตอบสนองไวแต่เสียงไม่ดัง, คนที่ใช้งานนานๆ ไม่ชอบชาร์จแบตบ่อย
ราคาประมาณ: 4,300 บาท
คีย์บอร์ดไร้สาย Jomaa & MOFII Geezer Zero 2.4G
อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับสายพาสเทล Jomaa & MOFII Geezer Zero ที่มาในดีไซน์น่ารักปุ๊กปิ๊ก จุดเด่นคือสีสันที่มีให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นชมพู, ฟ้า, เขียว หรือสีชานม ละมุนสุดๆ ตัวนี้เป็นคีย์บอร์ด Full Size มีครบทุกปุ่ม กดง่าย เสียงเงียบ ตอบสนองได้ดี
การเชื่อมต่อจะเป็นแบบ USB Wifi 2.4G ที่เน้นความง่ายและเสถียร เสียบปุ๊บติดปั๊บ เหมาะกับการใช้งานทั่วไปบนโต๊ะคอม ใครที่ชอบความเรียบง่าย ไม่ต้องตั้งค่าเยอะ แต่ขอดีไซน์น่ารักๆ ไว้ก่อน ตัวนี้ตอบโจทย์เลย
เหมาะกับ: คนที่อยากได้คีย์บอร์ด Full Size ดีไซน์น่ารักๆ ในราคาไม่แพง, เน้นใช้งานง่ายๆ ไม่ซับซ้อน
ราคาประมาณ: 1,795 บาท
คีย์บอร์ดไร้สาย Onikuma Aki Tri-Mode Wireless Hot-swappable
เอาใจเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ราคาประหยัดกับ Onikuma Aki! รุ่นนี้มาพร้อม Blue Switch ใครชอบเสียงกดมันส์ๆ แบบ Clicky ต้องตัวนี้เลย ฟีลลิ่งในการกดคือสะใจมาก มาพร้อมดีไซน์ที่ดูเท่ๆ ดุดันสไตล์เกมมิ่ง และยัง Hot-swappable เปลี่ยนสวิตช์เองได้ด้วย
การเชื่อมต่อครบๆ ทั้ง USB-C, Wifi 2.4G และ Bluetooth 5.2 ใหม่ล่าสุด! มีปุ่มปรับลดเสียงมาให้ด้วย ไฟ RGB ก็ปรับได้ถึง 18 แบบ แบต 4000 mAh ถือว่าเยอะมากสำหรับคีย์บอร์ดราคานี้ เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่คุ้มค่าสุดๆ ตัวหนึ่งเลย
เหมาะกับ: เกมเมอร์ที่ชอบเสียงกดดังๆ มันส์ๆ, คนที่มองหาคีย์บอร์ดเกมมิ่งไร้สายฟีเจอร์ครบในราคาสุดคุ้ม
ราคาประมาณ: 1,590 บาท
คีย์บอร์ดไร้สาย Fantech Mechanical Keyboard ATOM PRO97
ปิดท้ายด้วยตัวเทพอีกหนึ่งตัวกับ Fantech ATOM PRO97 ที่ให้ฟีเจอร์มาแบบไม่กั๊ก จุดเด่นคือ หน้าจอสี TFT ที่ปรับแต่งลูกเล่นได้เยอะมาก จะตั้งค่าเป็นไฟล์ GIF, โชว์นาฬิกา หรือโชว์สถานะระบบก็ได้หมด ตัวนี้ก็ Hot-swappable เช่นกัน อยากได้ฟีลลิ่งแบบไหนไปหาสวิตช์มาเปลี่ยนได้เลย
การเชื่อมต่อเป็นแบบ Tri-Mode (สาย, Bluetooth, Wifi 2.4G) ครบถ้วนตามมาตรฐานคีย์บอร์ดระดับโปร เป็นคีย์บอร์ดที่ให้อารมณ์เหมือนคีย์บอร์ด Custom ราคาแพงๆ แต่มาในราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่า
เหมาะกับ: คนที่ชอบแต่งคีย์บอร์ด, ชอบเทคโนโลยีและลูกเล่นใหม่ๆ, ต้องการคีย์บอร์ดประสิทธิภาพสูงที่ใช้ได้ทั้งเล่นเกมและทำงาน
ราคาประมาณ: 4,180 บาท
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 10 รุ่นที่คัดมาให้ชมกัน มีครบทุกสไตล์เลยใช่ไหมล่ะ?
สายทำงานเน้นเงียบ พรีเมียม: ไปที่ Logitech MX Keys S หรือ Keychron K4 Max
สายเกมเมอร์ตัวจริง: ต้อง Royal Kludge RK S98, Aula M75 หรือ Onikuma Aki
สาย Custom ชอบแต่ง ชอบลูกเล่น: จัด Ajazz AK820max หรือ Fantech ATOM PRO97 เลย
สายคุ้มค่าและดีไซน์น่ารัก: ต้อง HP CS500, Anitech OPA812 หรือ Jomaa & MOFII
หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจเลือกคีย์บอร์ดไร้สายคู่ใจตัวใหม่ได้ง่ายขึ้นนะครับ!




